สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ชูผลประเมิน “เกษตรทฤษฎีใหม่” ช่วยเกษตรกรลดรายจ่ายครัวเรือน-ลดใช้สารเคมี

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน (เกษตรทฤษฎีใหม่) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนแม่บทย่อยเกษตรปลอดภัย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ และเตรียมความพร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐาน
โครงการนี้ มีหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อน คือ กรมการข้าว กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมหม่อนไหม และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดย สศก. ทำหน้าที่ติดตามประเมินผล มีพื้นที่ดำเนินการ 76 จังหวัดครอบคลุม 4 ภาค

ในการนี้ สศก. ได้ติดตามผลการดำเนินงาน พบว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โครงการ ฯ สามารถดำเนินการได้ ร้อยละ 101.23 ของเป้าหมายภาพรวม โดยมีผลการดำเนินงานในหลายมิติ อาทิ การสนับสนุนปัจจัยการผลิตพื้นฐานด้านข้าว และจัดเวทีชุมชนถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตด้านข้าว 4,549 ราย การส่งเสริมองค์ความรู้พัฒนาเกษตรทฤษฎีใหม่ด้านประมง และสนับสนุนปัจจัยการผลิต 5,000 ราย (ครบตามเป้าหมาย) การพัฒนาศักยภาพด้านปศุสัตว์ 20,039 ราย (ร้อยละ 100.20 ของเป้าหมาย) การส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มและหน่วยธุรกิจแบบมีส่วนร่วม 1,258 กลุ่ม (ร้อยละ 100.08 ของเป้าหมาย) การพัฒนาอาชีพและการตลาด สนับสนุนหม่อนพันธุ์ดี/หม่อนชำถุง 22,154 ต้น (ร้อยละ 221.54 ของเป้าหมาย) และขยายผลเกษตรกรรายใหม่ทฤษฎีใหม่หม่อนไหม 100 ราย (ครบตามเป้าหมาย) การซักซ้อมพัฒนาครูบัญชี 131 ราย (ร้อยละ 100.77 ของเป้าหมาย) และอบรมการจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพ 3,608 ราย (ร้อยละ 100.22) ตลอดจนการส่งเสริมพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 36,058.72 ไร่ (ร้อยละ 100.24 ของเป้าหมาย)



นอกจากนี้ สศก. ยังได้ติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่ 23 จังหวัด พบว่า เมื่อพิจารณาภาพรวมจากการส่งเสริมของโครงการฯ เกิดผลสัมฤทธิ์ 2 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านเศรษฐกิจครัวเรือน ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนของเกษตรกร อาทิ เฉลี่ย 2,860 บาท/ครัวเรือน/ปี จากการนำพันธุ์พืชระยะสั้น เมล็ดพันธุ์ผักที่ได้รับสนับสนุนมาปลูก ทำให้ลดการซื้อผักจากตลาด/ร้านค้า, เฉลี่ย 2,809 บาท/ครัวเรือน/ปี จากการนำไข่ไก่มาบริโภค และเฉลี่ย 2,364 บาท/ครัวเรือน/ปี จากการนำปลามาบริโภค และลดการซื้อหัวอาหาร นอกจากนี้ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเกษตร ในเรื่องการลดค่าปุ๋ยเคมี/สารเคมี เฉลี่ย 2,678 บาท/ครัวเรือน/ปี และ 2.ด้านการจัดการทรัพยากร พบว่า เกษตรกรร้อยละ 10.60 ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเกษตรทั่วไป (การใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมี) มาทำเกษตรปลอดภัย (ลดการใช้สารเคมี หรือไม่ใช้เลย) ขณะที่เกษตรกรที่ทำเกษตรทั่วไปร้อยละ 63.64 มีความสนใจที่จะปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรปลอดภัย โดยให้เหตุผลเรื่องห่วงสุขภาพของตนเองจากการสัมผัสสารเคมีโดยตรงและสารตกค้างในผลผลิต ส่วนเกษตรกรอีกร้อยละ 36.36 ไม่สนใจทำเกษตรปลอดภัย และไม่สนใจขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย เนื่องจากเห็นว่าขั้นตอนการขอยุ่งยากหลายขั้นตอน
ทั้งนี้ สศก. มีข้อเสนอแนะว่า ควรยกระดับการบูรณาการกลไกทำงานระดับจังหวัด, เพิ่มการให้คำแนะนำเรื่องเกษตรปลอดภัย, พัฒนาระบบติดตามผลแบบดิจิทัล (Real-time) เพื่อการวิเคราะห์เชิงนโยบายที่รวดเร็วและแม่นยำ, สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง (เช่น ระบบรับรอง เกณฑ์รางวัล หรือตลาดพิเศษ) และพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ยืดหยุ่นมากขึ้นตามสภาพพื้นที่






สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร






