เกษตรฯ เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร จ.กระบี่

304

เกษตรฯ เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ “ล่องเรือชมวิถีเกษตร น้ำพุร้อนเค็มสุขภาพดี ชีวียั่งยืน”

จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดภาคใต้ที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกติดกับทะเลอันดามัน มีทรัพยากรสมบูรณ์  มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามติดอันดับของโลก ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รายได้ส่วนใหญ่ของจังหวัดมาจากภาคการท่องเที่ยว และภาคการเกษตร และจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวและการเกษตรลดลง แต่เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายลง นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเพิ่มจำนวนมากขึ้น เศรษฐกิจในจังหวัดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น    สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ มีนโยบายที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรอีกครั้ง จึงมีแนวคิดที่จะนำจุดแข็งของจังหวัด คือ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเลือกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์สมุนไพรพื้นถิ่นบ้านนา อำเภอคลองท่อม ในการเป็นต้นแบบการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

นายม่าแอน ลำพน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์สมุนไพรพื้นถิ่นบ้านนา กล่าวว่า “อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่” สามารถเรียกได้ว่าเป็น “เมืองสปาน้ำพุร้อน” (Spa Town) ของประเทศไทย เนื่องด้วยพื้นที่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนของเปลือกโลกทำให้เกิดน้ำพุธรรมชาติ (Natural Spring) ขึ้นหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วอำเภอ แหล่งน้ำพุธรรมชาติมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่แหล่งน้ำพุที่สำคัญที่ชาวคลองท่อม ได้แก่ สระมรกต น้ำตกร้อนสะพานยูง และน้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุ 3 แห่งที่มีความพร้อม และเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนอำเภอคลองท่อม โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลห้วยน้ำขาว เป็นที่ตั้งของ “น้ำพุร้อนเค็ม” หรือน้ำพุร้อนที่มีความเค็ม ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2) แห่งของโลก (โดยอีกหนึ่งแห่งอยู่ในประเทศสาธารณรัฐเชค แถบยุโรปตะวันออก) น้ำพุร้อนเค็มนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกลงไปในดิน ก่อนจะถูกดันสู่ผิวดิน แต่เดิมบ่อน้ำพุร้อนเค็มนี้อยู่ท่ามกลางป่าชายเลน ชาวบ้านรู้จักและพากันมาแช่น้ำร้อนกันมาเป็นเวลานาน ต่อมาทางเทศบาล ได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่ ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นเมื่อราว 5 ปีก่อน และได้เก็บเงินค่าเข้าเพื่อนำมาพัฒนาพื้นที่ โดยที่นี่มีบ่อน้ำผุดที่เรียกว่า “บ่อแม่” เป็นบ่อต้นน้ำ มีอุณหภูมิประมาณ 47 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่อนุญาตให้ลงแช่ ให้ตักอาบเท่านั้น และ “บ่อแฝด” ที่อยู่เหนือบ่อแม่ขึ้นไป บ่อเหล่านี้เป็นบ่อธรรมชาติทั้งหมด ทางเทศบาลได้สร้างขอบบ่อและบริเวณรอบ ๆ บ่อให้สะดวกปลอดภัยขึ้น ข้อแนะนำสำหรับการแช่น้ำพุร้อนเค็มก็คือ ต้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนลงบ่อ และไม่ควรแช่นานเกิน 10-15 นาที โดยเชื่อกันว่าการแช่น้ำร้อนเค็มนี้จะช่วยแก้โรคผิวหนัง แก้โรคปวดเข่าปวดข้อ คนป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หากได้แช่สม่ำเสมออาการจะค่อยๆ ดีขึ้น

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์สมุนไพรพื้นถิ่นบ้านนา หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยน้ำขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ดำเนินกิจกรรมการผลิตน้ำมันนวดสมุนไพร  ไข่ดองน้ำพุร้อนเค็ม และการทำผ้ามัดย้อมโดยการใช้สีจากต้นพิลังกาสา ซึ่งเป็นต้นไม้ในท้องถิ่น ปัจจุบันได้เพิ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชน โดยการเชื่อมโยงกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่น สามารถใช้เวลาใน 1 วันในการทำกิจกรรม ประกอบด้วย การพายเรือคายัค ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ล่องลำคลองในหมู่บ้านชมพันธุ์ไม้หายากในท้องถิ่น โดยมีสมาชิกกลุ่มเป็นผู้นำเที่ยวและให้ข้อมูลการท่องเที่ยว แวะชมสวนมะพร้าว เยี่ยมชมการบริหารจัดการสวนและชิมมะพร้าวสดๆ จากสวน ชมสวนสมุนไพรในท้องถิ่น พร้อมทำของที่ระลึกจากการท่องเที่ยว น้ำมันนวดสมุนไพร  ไข่ดองน้ำพุร้อนเค็ม และการทำผ้ามัดย้อมโดยการใช้สีจากต้นพิลังกาสา และเดินทางแช่น้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งมีทั้งบ่อของเทศบาล และของเอกชนที่ดำเนินการในพื้นที่

นางสาวชวนคนึง วรัจฉรียกุล เกษตรอำเภอคลองท่อม กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ และสำนักงานเกษตรอำเภอคลองท่อม ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยววิถีเกษตร เพื่อพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้นแบบ โดยคัดเลือกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์สมุนไพรพื้นถิ่นบ้านนา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงชุมชน จากการจัดเวทีชุมชนเพื่อระดมความคิดและหารือแนวทางในการร่วมกันจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการจัดทำรายละเอียดการทำกิจกรรมในแต่ละจุด

  • จุดที่ 1 จุดรับนักท่องเที่ยว ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์สมุนไพรพื้นถิ่นบ้านนา มีการลงทะเบียนนักท่องเที่ยว และการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเครื่องดื่ม (welcome drink) นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งใน ประกอบด้วย ไข่ดองน้ำพุร้อนเค็ม ผ้ามัดย้อมโดยใช้สีจากต้นพิลังกาสา น้ำมันนวดสมุนไพร และเยี่ยมชมสวนสมุนไพรท้องถิ่น ที่กลุ่มนำมาใช้ในการทำน้ำมันนวด
  • จุดที่ 2 วิสาหกิจชุมชนคนปลูกมัลเบอร์รี่ กิจกรรมชม ชิม ช็อป และร่วมกิจกรรมการแปรรูปมัลเบอร์รี่เป็นแยม และไวน์มัลเบอร์รี่
  • จุดที่ 3 เยี่ยมชมกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ชมสวนหมาก สวนไม้ผลและชิมผลไม้ตามฤดูกาล และจุดชมวิว “จิบกาแฟ แลทะเล”
  • จุดที่ 4 วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงแพะและโคบ้านท่าประดู่ ศึกษาการเลี้ยงแพะ กิจกรรมป้อนนม ป้อนหญ้า และถ่ายรูปกับลูกแพะ
  • จุดที่ 5 พายเรือคายัค ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร มีการจัดทำป้ายข้อมูลพันธุ์ไม้ที่อยู่บริเวณสองฝั่งคลอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้ก่อนลงพายเรือคายัค แวะชมสวนมะพร้าวน้ำหอมระหว่างทางพายเรือคายัค ให้นักท่องเที่ยวชิมน้ำมะพร้าว เรียนรู้การจัดการสวนมะพร้าว การเก็บเกี่ยวมะพร้าวน้ำหอม
  • จุดที่ 6 จุดขึ้นฝั่ง เตรียมพร้อมไปแช่น้ำพุร้อนเค็ม มีรถซาเล้งบริการรับส่งนักท่องเที่ยวจากท่าเรือไปยังจุดแช่น้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งมีทั้งบ่อของเทศบาล และของเอกชนที่ดำเนินการในพื้นที่ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกระดับ
  • จุดที่ 7 จุดจำหน่ายของที่ระลึก ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมเตยปาหนันบ้านวังหิน ซึ่งเป็นงานฝีมือที่เกิดจากการนำเตยปาหนันและกระจูด ที่เป็นวัตถุดิบในพื้นที่มาแปรรูปเป็นงานฝีมือต่าง ๆ

ท่านที่สนใจท่องเที่ยววิถีชุมชน และอยากแช่น้ำพุร้อนเค็มที่มีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทย สามารถติดต่อได้ที่ นายม่าแอน ลำพน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์สมุนไพรพื้นถิ่นบ้านนา โทรศัพท์ 086-1205293

สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ ข่าว