เกษตรฯ กำชับทุกพื้นที่เข้าสู่โหมด รับมือ “พายุวิภา”

170

กรมส่งเสริมการเกษตร ขานรับข้อสั่งการ รมว.เกษตร กำชับทุกพื้นที่เข้าสู่โหมด รับมือ “พายุวิภา”

ตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งอิทธิพลของพายุจะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เกิดฝนตกหนักหรือหนักมากหลายพื้นที่

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอรรถกร ศิริลัทยากร)  กล่าวภายหลังการเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคเหนือในการเตรียมการรับมือสถานการณ์ ดังกล่าวว่า ได้รับข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อลดผลกระทบภาคเกษตรให้มากที่สุด พร้อมให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งระดับเขต จังหวัด อำเภอ และตำบล เร่งเข้าสู่โหมดการปฏิบัติตัวในช่วง เตรียมพร้อม และตอบสนองอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร และลดผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยง

แนวทางปฏิบัติในช่วง “เตรียมพร้อม”
1. จัดทำและทบทวน แผนที่พื้นที่เสี่ยงภัย (Flood Risk Map) พร้อมจำแนกกลุ่มพืชที่มีความเปราะบางต่อภาวะน้ำท่วม เช่น ข้าว ข้าวโพด พืชผัก พืชสวน สำรวจข้อมูล ชนิดพืช ปริมาณผลผลิต และอายุของพืช ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเตรียมแผนรองรับ  
2. ตรวจสอบและเตรียม เครื่องสูบน้ำ เครื่องมือระบายน้ำ และอุปกรณ์ที่จำเป็น ให้พร้อมใช้งานทันที
3. วางแผน ลดความเสี่ยง ด้วยการปรับแปลงเพาะปลูก สร้างคันกั้นน้ำ ตัดแต่งกิ่งพืช และเก็บเกี่ยวบางส่วนล่วงหน้า หากจำเป็น
4. แจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่ผ่าน ทุกช่องทางการสื่อสาร อย่างต่อเนื่อง
5. ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการย้ายทรัพย์สิน ปัจจัยการผลิต หรือผลผลิตขึ้นที่สูง หลีกเลี่ยงความเสียหาย

และแนวทางปฏิบัติในช่วงประสบภัยพิบัติ
1. เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรทันทีเมื่อน้ำเริ่มขัง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
2. เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกซ้ำ และน้ำจากต้นน้ำไหลหลาก
3. ประสานกับท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายในพื้นที่เพื่อสนับสนุนการตอบสนองเร่งด่วน
4. ให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอและตำบล เป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวังและให้คำแนะนำเกษตรกรอย่างใกล้ชิด

กรมส่งเสริมการเกษตรขอให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างต่อเนื่อง และรายงานผลการปฏิบัติ ในระดับพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกันอย่างเป็นระบบ “เตรียมพร้อมวันนี้ เพื่อลดผลกระทบในวันพรุ่งนี้”และขอให้เกษตรกรติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

กรมส่งเสริมการเกษตร