ระวังโรคราสนิมขาว

680

กรมวิชาการเกษตร เเนะเกษตรกรเฝ้าระวังโรคราสนิมขาวในเบญจมาศ

ในช่วงที่มีอากาศเย็นระยะนี้ กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกเบญจมาศเฝ้าระวังสังเกตการระบาดของโรคราสนิมขาว อาการเริ่มแรกจะพบด้านบนใบมีจุดแผลสีเหลืองขนาดเล็ก ต่อมาแผลจะขยายใหญ่ขึ้น ส่วนบริเวณด้านใต้ใบในตำแหน่งเดียวกันจะพบจุดสีขาวนวลที่เป็นเชื้อราสาเหตุโรค จากนั้น แผลจะขยายใหญ่ขึ้นเป็นจุดนูนกลมสีขาวอมชมพู เมื่อเจริญเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีขาวเกิดกระจายอยู่ทั่วทั้งใบ ทำให้เนื้อใบตรงข้ามกลุ่มเชื้อราสาเหตุโรคกลายเป็นสีเหลืองและไหม้ ใบมีลักษณะพอง บิดเบี้ยว กรณีที่โรคระบาดรุนแรง จะทำให้ใบเหลือง ไหม้ แห้ง และร่วง หากพบโรคเกิดกับดอกตูม กลีบเลี้ยง และกลีบดอกจะแห้งไม่คลี่บาน

สำหรับแนวทางในการป้องกันและกำจัด ให้เกษตรกรกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกและบริเวณใกล้เคียง ตัดแต่งใบแก่ออกเพื่อให้ต้นโปร่งมีอากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนในพื้นที่ที่เกิดโรคระบาด เกษตรกรควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน และควรปลูกเบญจมาศให้มีระยะห่างพอควร เพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดี ในฤดูปลูกถัดไป เกษตรกรควรใช้กิ่งชำหรือต้นพันธุ์ที่ปราศจากโรค หรือก่อนปลูกแช่กิ่งชำหรือต้นพันธุ์ด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดใดชนิดหนึ่ง อาทิ สารเฮกซะโคนาโซล 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารทีบูโคนาโซล 43% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารไดฟีโนโคนาโซล + โพรพิโคนาโซล 15%+15% อีซี อัตรา 15 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร

นอกจากนี้ เกษตรกรหมั่นสำรวจตรวจดูแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบโรคให้ตัดส่วนที่เป็นโรคนำไปทำลายนอกแปลงปลูก หากโรคยังคงระบาดรุนแรง ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเฮกซะโคนาโซล 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารทีบูโคนาโซล 43% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารไดฟีโนโคนาโซล + โพรพิโคนาโซล 15%+15% อีซี อัตรา 15 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นสารทุก 7 วัน

กรมวิชาการเกษตร ข่าว