ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย

73

ตอกย้ำ! ภาคการประมงไทยไม่กระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา
โดยองค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration: NOAA) ได้ประกาศผลการพิจารณาความเทียบเคียงตามกฎหมายว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammal Protection Act: MMPA) อย่างเป็นทางการใน Federal Register และเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ สำหรับรายการสินค้าประมงทั้งหมด 2,500 รายการ จากประเทศคู่ค้า 135 ประเทศทั่วโลก โดยผลการพิจารณาปรากฏว่าประเทศไทย
เป็น 1 ใน 89 ประเทศที่ผ่านการประเมิน และรายการสัตว์น้ำที่ได้จากเครื่องมือประมงของประเทศไทยผ่านเกณฑ์การพิจารณาทั้งหมด อีกทั้ง การประมงของประเทศไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อการประมงต่างประเทศ (List of Foreign Fisheries: LOFF)
ผ่านเกณฑ์การเทียบเคียงมาตรการทางกฎหมายของไทยกับ MMPA ของทางสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว สามารถส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาได้ทุกรายการ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทย โดยกรมประมงและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในฐานะคณะอนุกรรมการฯ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้มีการจัดส่งข้อมูลการดำเนินการของไทยภายใต้กฎหมาย MMPA ให้กับสหรัฐฯ
มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 เพื่อประเมินความเท่าเทียมทางกฎหมาย (Comparability Findings) และยืนยันว่าสินค้าสัตว์น้ำของไทยไม่ได้มาจากการจับที่กระทบต่อการบาดเจ็บ ตาย และการดำรงอยู่ของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ควบคู่ไปกับ
การดำเนินการด้านต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจากการทำประมง อาทิ การจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติ
เพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม พ.ศ. 2566 – 2570
เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ในการบริหารจัดการการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยให้เกิดความยั่งยืน การออกมาตรการทางกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง
โดยแก้ไขมาตรา 66 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 เพื่อสนับสนุนให้ชาวประมงสามารถช่วยเหลือสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมได้ทันทีโดยไม่มีความผิดทางกฎหมาย และลดอัตราการตายที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเครื่องมือประมง รวมถึง การประชาสัมพันธ์และจัดการฝึกอบรม เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์ ช่วยเหลือ และปฏิบัติต่อสัตว์ทะเล
หายากอย่างถูกวิธี ให้กับชาวประมง บุคคลทั่วไป และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งหมด 96 ครั้ง มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรมมากกว่า 5,500 ราย นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินโครงการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องมือประมงและวิธีการทำการประมง
เพื่อป้องกันการติดโดยบังเอิญของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น การทดลองติดเครื่องส่งสัญญาณ (Pinger) ในอวนติดตาและอวนจมปูในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนและอ่าวไทยฝั่งตะวันออกที่มีการรายงานการแพร่กระจายของโลมาอิรวดี ซึ่งจากผลการทดลองพบว่าได้ผลดี ไม่มีการพบเห็นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมมาติดอวนแต่อย่างใด

“การดำเนินการทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยที่จะดำเนินแนวทางการทำประมงอย่างรับผิดชอบ ไม่ทำลายสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลการประเมิน MMPA ของสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้
เป็นสิ่งยืนยันและสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มงวดของมาตรการป้องกันการติดสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมในการทำประมง
ของประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยกรมประมงในฐานะคณะอนุกรรมการฯ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ
จะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยให้เกิดความยั่งยืน และพร้อมบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าว่าสินค้าประมงของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาไม่ได้
มาจากการจับสัตว์น้ำที่กระทบต่อการบาดเจ็บ ตาย และการดำรงอยู่ของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม”…อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้าย