เตรียมดัน GI

757

บุรีรัมย์ เตรียมดัน GI “ทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์” สินค้าสร้างรายได้สูง

นางสุจารีย์ พิชา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา (สศท.5) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า “ทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์” ของจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นทุเรียนที่มีลักษณะพิเศษ ปลูกในพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์ทางด้านธรณีวิทยา ซี่งมีน้ำแร่ที่มาจากน้ำใต้ดิน ในดินภูเขาไฟ ดินที่ใช้ปลูกเป็นดินแดงเข้มที่ได้จากการประทุของภูเขาไฟของจังหวัดบุรีรัมย์ ทุเรียนจึงมีการเจริญเติบโตดี เนื้อนุ่ม รสชาติหวานมันเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ต้องการของตลาดสูง ซึ่งขณะนี้จังหวัดบุรีรัมย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังร่วมผลักดันให้เป็นสินค้า GI ซึ่งคาดว่าจะได้ขึ้นทะเบียนในปี 2566

นางสุจารีย์ พิชา
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5
นครราชสีมา (สศท.5)

ปัจจุบันเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ได้ขึ้นทะเบียนการปลูกทุเรียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร (ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2564) จำนวน 294 ราย พื้นที่ 1,346 ไร่ โดยแบ่งเป็นเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ จำนวน 186 ราย พื้นที่ 930 ไร่ หรือร้อยละ 69 ของพื้นที่ปลูก ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ผลิตทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ พบว่า กลุ่มแปลงใหญ่ไม้ผลบ้านปลื้ม ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ นับเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ 550 ไร่ มีสมาชิกเกษตรกร 106 ราย เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์หมอนทอง ซึ่งเป็นพันธุ์ยอดนิยม ติดผลดก ระยะเวลาสุกแก่ปานกลาง เนื้อหนา แข็งนอก นุ่มใน รสชาติหวานมัน และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 18,278 บาท/ไร่/รอบการผลิต (เริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 4 และสามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 20 ปี) ส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ผลผลิตจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนมิถุนายน- กันยายน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 560.71 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต (ทุเรียน 1 ลูก มีน้ำหนักเฉลี่ย 4 กิโลกรัม) เกษตรกรได้ผลตอบแทน 64,482 บาท/ไร่/รอบการผลิต คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยสุทธิ (กำไร) 46,204 บาท/ไร่/รอบการผลิต

ด้านราคาทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ที่เกษตรกรขายได้ ณ เมษายน 2564 ราคาอยู่ที่ 150 บาท/กิโลกรัม (ขายราคาทุเรียนแบบคละทั้งหมด) ด้านการตลาด ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 60 จำหน่ายให้กับล้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงผลผลิตส่วนร้อยละ 40 จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook “SOMMAI FARM” และจำหน่ายให้กับกลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตรหรือนักท่องเที่ยวทั่วไป ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Facebook สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์

ผลสำเร็จของกลุ่มแปลงใหญ่ไม้ผลบ้านปลื้ม ที่นอกจากการปลูกทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์แล้ว  ทางกลุ่มแปลงใหญ่ฯ ได้มีการปลูกผลไม้ตามฤดูกาลชนิดอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับสมาชิกเกษตรกร ได้แก่ ลำไย มะม่วง มะขาม ขนุน องุ่น และเงาะ ซึ่งปัจจุบันทางกลุ่มแปลงใหญ่ฯ ได้เปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ชิม และช้อปผลไม้สด ๆ กลับบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ ทางกลุ่มแปลงใหญ่ฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินและเกษตรกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้คำปรึกษาองค์ความรู้ด้านการผลิต การบริหารจัดการกลุ่มฯ ตลอดจนการจัดการด้านตลาด

ผู้อำนวยการ สศท.5 กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ มีนโยบายในการสนับสนุนด้านการเพาะปลูก การตลาด ตลอดจนมาตรฐานของสินค้าเพื่อให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพ ซึ่งทางจังหวัดมีแนวทางที่จะผลักดันทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ ให้เป็นสินค้า GI เหมือนกับข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ ทั้งนี้ หากเกษตรกรหรือท่านใดที่สนใจข้อมูลการผลิตทุเรียนน้ำแร่ธรรมชาติ ดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ นายพิกุล สีสันต์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ไม้ผลบ้านปลื้ม ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ โทร 08 7251 0777 และสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.5 นครราชสีมา โทร. 0 4446 5120 หรืออีเมล์ [email protected]

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ข่าว