ตรวจบัญชีสหกรณ์ฯ หนุนเกษตรกรใช้บัญชีวางแผนการผลิต

165

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมบูรณาการอบรมบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพในโครงการเกษตรวิชญา หนุนเกษตรกรใช้บัญชีวางแผนการผลิต พัฒนาอาชีพสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้าอบรมการจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “โครงการเกษตรวิชญา” หวังเกษตรกรนำข้อมูลบัญชีมาปรับใช้วางแผนการประกอบอาชีพ สร้างวินัยทางการเงินและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เชียงใหม่ ร่วมบูรณาการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขับเคลื่อนการจัดทำโครงการเกษตรวิชญา ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพื้นที่
ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการในลักษณะคลินิกเกษตร เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีการเกษตรจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในรูปแบบของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีชุมชน เป็นศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยพัฒนาการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ รวมทั้งเพื่อเป็นการฟื้นฟูและอนุรักษ์สภาพแวดล้อมให้เกิดระบบนิเวศที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตอาหารธรรมชาติและมีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินการอบรมสอนแนะการจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรในโครงการฯ ได้สามารถนำข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาปรับใช้ในการวางแผนการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม มีเหตุ มีผลสร้างวินัยทางการเงินและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีครูบัญชีอาสาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่กำกับแนะนำและติดตามผลการจัดทำบัญชี เพื่อกระตุ้นและสร้างความเข้าใจด้านการจัดทำบัญชีให้เกษตรกร รวมทั้งมีการคัดเลือกเกษตรกรตัวอย่างเพื่อเป็นต้นแบบให้กับเกษตรกรด้วย

นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์

นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า สำหรับในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ กรมฯ ได้อบรม
การจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรในโครงการฯ โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เชียงใหม่พร้อมด้วยครูบัญชีอาสา ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้และกระตุ้นให้เกษตรกรจัดทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้คัดเลือกเกษตรกรตัวอย่าง จำนวน 1 ราย คือ นายประเสริฐ วงค์เขื่อนแก้ว เกษตรกรประกอบอาชีพปลูกถั่วฝักยาวในพื้นที่ 1 ไร่ เพื่อเป็นเกษตรกรต้นแบบที่จัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพให้กับเกษตรกรรายอื่น ๆ ทั้งนี้ จากการที่กรมฯ ได้เข้าร่วมบูรณาการด้านการพัฒนาความรู้ด้านบัญชีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน มีเกษตรกรให้ความสนใจเข้าร่วมการอบรมในโครงการฯ และมีการจดบันทึกบัญชีอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถนำข้อมูลจากการบันทึกบัญชีไปใช้วางแผนการประกอบอาชีพของตนเองได้อย่างเหมาะสม สร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ ทั้งนี้ กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการผลักดันการพัฒนาองค์ความรู้การจัดทำบัญชีให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งเกษตรกรที่สนใจ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเรียนรู้และมองเห็นความสำคัญของการจดบันทึกบัญชีและนำข้อมูลทางบัญชีมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการผลิตทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ สามารถสร้างรายได้และลดต้นทุน มีฐานะที่มั่นคงต่อไป

นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมบูรณาการงานเสริมสร้างความรู้และบริการให้คำปรึกษาแนะนำการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชน ในโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรในโครงการฯ สามารถเข้าถึงการบริการทางการเกษตร ได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช สัตว์ ประมง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรควบคู่ไปด้วย โดยกรมฯ ได้ร่วมจัดกิจกรรมคลินิกบัญชี ให้บริการความรู้การจัดทำบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ตลอดจนแนะนำการบันทึกบัญชีด้วยแอปพลิเคชัน Smart Me ที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งใช้สำหรับบันทึกบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ โดยออกแบบให้ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับเกษตรกร เยาวชน และบุคคลทั่วไปใช้ในการจัดทำบัญชีได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์ Smart Phone ที่รองรับทั้งระบบ IOS และ Android ทำให้รู้จักการวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้รู้จักความพอดี พอกิน พอใช้ คำนึงถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเองด้วยการบันทึกบัญชี และนำผลจากการทำบัญชีมาแก้ไขปัญหาและพัฒนาการดำเนินชีวิตของตนเองได้อย่างมีความสุข โดยการนำองค์ความรู้ด้านบัญชีมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และเมื่อทำบัญชีเป็นประจำจนประสบความสำเร็จ จะสามารถต่อยอดความสำเร็จที่ได้ไปสู่ชุมชนของเกษตรกร ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง น้อมนำศาสตร์พระราชาด้านบัญชี มาเป็นกลไกที่จะเข้าถึงแก่นแท้ของความพอเพียงได้ด้วยตนเองเกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืนและความสมดุลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนให้กับประชาชน และส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศต่อไป โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ กรมฯ ได้ร่วมจัดนิทรรศการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ แบ่งเป็น คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ภายใต้โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในพื้นที่ ๗๗ จังหวัด ๆ ละ ๔ ครั้ง รวม ๓๐๘ ครั้ง (ตามแผนงานของกรมส่งเสริมการเกษตร) และนิทรรศการคลินิกจังหวัดเคลื่อนที่ ๕๖ จังหวัด รวม ๔๐๗ ครั้ง (ตามแผนจังหวัด) รวมจำนวนผู้เข้ารับบริการกว่า ๒ หมื่นราย.

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ข่าว